หมวด ๒ | แสดงเจตนา | |
第二節 | 意思表示 |
การแสดงเจตนาใด แม้ในใจจริงผู้แสดงจะมิได้เจตนาให้ตนต้องผูกพันตามที่ตนได้แสดงออกมาก็ดี ท่านว่าหาเป็นมูลทำให้การแสดงเจตนานั้นเป็นโมฆะไม่ เว้นแต่คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รู้ถึงเจตนาอันซ่อนอยู่ในใจของผู้แสดงนั้น |
|
第117条 | |
意思表示は、表示者が本心では自らをその表示通りに義務付ける意図なく行ったものであっても、そのことのみによってその効力を妨げられることはない。但し、相手方が表示者の真意を知っている場合はその限りではない。 |
การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง ท่านว่าเป็นโมฆะ แต่ข้อไม่สมบูรณ์อันนี้ ท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต และต้องเสียหายแต่การแสดงเจตนาลวงนั้น ถ้านีติกรรมอันหนึ่ง ทำด้วยเจตนาจะอำพรางนีติกรรมอีกอันหนึ่งไสร้ ท่านให้บังคับตามบทบัญญัติของกฎหมายอันว่าด้วยนีติกรรมอำพราง |
|
第118条 | |
I. |
相手方と通じてなした虚偽の意思表示は、これを無効とする。但し、この瑕疵を以て善意の第三者に対抗し、当該意思表示[の無効]によってこの者に損害を及ぼすことは許されない。 |
II. |
ある法律行為が他の法律行為を隠匿するためになされたときは、[前者の法律行為の効力は、]隠匿された[後者の]法律行為に関する法律の規定に従ってこれを決する。 |
การแสดงเจตนา ถ้าทำด้วยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนีติกรรม ท่านว่าเป็นโมฆะ แต่ถ้าความสำคัญผิดนั้น เป็นเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของบุคคลผู้แสดงเจตนาไสร้ ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะถือเอาความไม่สมบูรณ์นั้นมาใช้เป็นประโยชน์แก่ตนได้ไม่ |
|
第119条 | |
意思表示は、法律行為の要素に錯誤があったときは、これを無効とする。但し、その錯誤が表意者の重大な過失に起因するときは、その表意者は、自らの利益のためにその意思表示の瑕疵を援用することは許されない。 |
การแสดงเจตนา ถ้าทำโดยสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลหรือทรัพย์ ซึ่งตามปกติย่อมนับว่าเป็นสาระสำคัญนั้นไสร้ แสดงเจตนาอย่างนี้ท่านว่าเป็นโมฆียะ |
|
第120条 | |
意思表示は、人あるいは財物の性質に関して錯誤があったときは、その性質が通常、[人あるいは財物にとって]本質的と見なされるものである場合に限り、これを取り消すことができる。 |
การแสดงเจตนาอันได้มาเพราะกลฉ้อฉลก็ดี เพราะข่มขู่ก็ดี ท่านว่าเป็นโมฆียะ ถ้าคู่กรณีฝ่ายหนึ่งได้แสดงเจตนาเพราะกลฉ้อฉลของบุคคลภายนอก การจะเป็นโมฆียะต่อเมื่อคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้หรือควรจะได้รู้กลฉ้อฉลนั้น ถ้าทำกลฉ้อฉลลวงให้เขาบอกล้างการแสดงเจตนา การบอกล้างเช่นนั้น ท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู่บุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต |
|
第121条 | |
I. |
詐欺または強迫による意思表示は、これを取り消すことができる。 |
II. |
当事者の一方が第三者のはたらいた詐欺のために意思表示をなすに至ったときは、他方当事者がその詐欺を知っていたか、あるいは知り得たはずの場合に限り、これを取り消すことができる。 |
III. |
詐欺による意思表示であったために、表意者がそれを取り消そうとする場合[であっても]、善意の第三者に対しては、これを以て対抗することは許されない。 |
การอันจะเป็นโมฆียะกรรมเพราะกลฉ้อฉลนั้น ต่อเมื่อถึงขนาดซึ่งถ้ามิได้มีกลฉ้อฉลเช่นนั้น อันนั้นก็คงจะมิได้ทำขึ้นเลย |
|
第122条 | |
詐欺による意思表示は、そのような詐欺がなかったならば[表意者は]当該意思表示を決してしなかったであろう[と推定される]ほどに[当該意思の本質に関わる]場合にのみ、これを取り消すことができる。 |
ถ้ากลฉ้อฉลนั้นเป็นแต่เพียงเหตุ กล่าวคือว่าเพียงได้จูงใจให้คู่กรณีฝ่ายหนึ่งยอมรับเอาซึ่งข้อกำหนดอันหนักยิ่งกว่าที่เขาจะยอมรับโดยปกติไซร้ ท่านว่าคู่กรณีฝ่ายนั้นได้แต่จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทน จะบอกล้างการอันนั้นเสียทีเดียวหาได้ไม่ |
|
第123条 | |
[瑕疵ある意思表示の原因である]その詐欺が[意思表示の要素に関するよりは]単に誘因に過ぎないとき、即ち、通常ならば受け入れなかっであろう不利な内容に同意するよう誘導された程度の場合には、表意者は、[その詐欺から生じた]損害の賠償を請求できるにとどまり、当該意思表示の取り消しは許されない。 |
ในนีติกรรมสองฝ่าย การที่คู่กรณีฝ่ายหนึ่งจงใจนิ่งเสียไม่ไขข้อความจริง หรือคุณสมบัติอันใดอันหนึ่งอันคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งมิได้รู้นั้น ท่านถือว่าเป็นกลฉ้อฉล หากพิสูจน์ได้ว่าถ้ามิได้นิ่งเสียเช่นนั้น นีติกรรมอันนั้นก็คงจะมิได้ทำขึ้นเลย |
|
第124条 | |
双務的な法律行為において、当事者の一方が他方当事者の知らない事実あるいは性質を故意に黙秘したときは、その黙秘された事実あるいは性質を相手方が知っていたならば当該法律行為は決して成立に至らなかったであろうことが証明される場合に限り、これを詐欺と見なす。 |
ถ้าคู่กรณีต่างได้ทำการโดยกลฉ้อฉลทั้งสองฝ่ายด้วยกัน ท่านว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะหยิบยกข้อฉ้อฉลนั้นอ้างเพื่อบอกล้างการนั้น หรือเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนหาได้ไม่ |
|
第125条 | |
[法律行為の]当事者の双方が互いに相手方に対して詐欺をはたらいたときは、その詐欺を理由に[自らの意思表示の]取り消しを主張し、または損害賠償を請求することは、双方ともに許されない。 |
การข่มขู่ที่จะได้ทำการใดตกเป็นโมฆียะนั้น จะต้องเป็นอันถึงขนาดที่จะจูงใจถูกข่มขู่ให้มีมูลต้องกลัวจะเกิดความเสียหายเป็นภัยแก่ตนเอง แก่สกุลแห่งตน หรือแก่ทรัพย์สินของตน เป็นภัยอันใกล้จะถึง และร้ายแรงเท่ากับที่จะพึงกลัวต่อการอันเขากรรโชกเอานั้น |
|
第126条 | |
何等かの行為を取り消し可能とさせる強迫は、言葉によるも、自分自身、自分の家族、あるいは自分の財産に対して[本当に]危害が加えられるかもしれないと[被害者に]恐怖心を抱かせるに十分な程度[に現実的]であり、[且つ]その危険が切迫しており、且つまた、強迫者が[現実に]加害行為を実行したに等しい程に深刻なものでなければならない。 |
การขู่ว่าจะใช้สิทธิอันหนึ่งตามปกตินิยมก็ดี เพียงแต่ความหลัวเพราะนับถือยำเกรงก็ดี ท่านหาจัดว่าเป็นการข่มขู่ไม่ |
|
第127条 | |
権利の通常の行使として警告しても、また、[相手に対する]畏敬の念から恐れを抱いても、それを強迫[の行為、あるいは強迫による恐れ]とは見なすことは許されない。 |
การข่มขู่ย่อมทำให้นีติกรรมเสื่อมเสีย แม้ถึงบุคคลภายนอกจะเป็นผู้ข่มขู่ |
|
第128条 | |
強迫が第三者によってなされた場合であっても、[その結果としてなされた]法律行為は、当然に瑕疵あるものとなる。 |
ในการวินิจฉัยคดีข้อสำคัญผิดก็ดี กลฉ้อฉลก็ดี ข่มขู่ก็ดี ท่านให้พิเคราะห์ถึงเพศ อายุ ฐานะ อนามัย และนิสสัยใจคอของผู้เจ้าทุกข์ ตลอดถึงพฤติการณ์อื่นทั้งปวงอันอาจเป็นน้ำหนักแต่การนั้นด้วย |
|
第129条 | |
錯誤、詐欺および強迫[による意思表示]の事案の審理に当たっては、被害者の性別、年齢、地位、健康状態、および性癖や性情、ならびに、当該行為に影響した可能性のあるその他全ての事情を考慮しなければならない。 |
การแสดงเจตนาทำให้แก่บุคคลผู้อยู่ห่างโดยระยะทาง ย่อมมีผลนับแต่เวลาที่ไปถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งนั้นเป็นตันไป แต่ถ้าบอกถอนไปถึงผู้นั้นก่อนแล้ว หรือพร้อมกันไสร้ แสดงเจตนานั้นก็ย่อมตกเป็นอันไร้ผล อนึ่งเมื่อเจตนาได้ส่งไปแล้ว ถึงแม้ว่าในภายหลังผู้แสดงเจตนาจะตาย หรือตกเป็นคนไร้ความสามารถก็ตาม ท่านว่าหาเป็นเหตุทำให้ความสมบูรณ์แห่งการแสดงเจตนานั้นเสื่อมเสียไปไม่ |
|
第130条 | |
I. |
隔地者に対する意思表示は、その意思表示が相手方に到達した時点からその効力を生じる。但し、それに先立ち、あるいはそれと同時に撤回[の通知]が到達した場合は、その限りではない。 |
II. |
なお、既に発信された[隔地者に対する]意思表示は、表意者がその後に死亡し、または禁治産の宣告を受けても、そのためにその効力を妨げられない。 |
ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รับซึ่งการแสดงเจตนานั้นเป็นผู้เยาว์ก็ดี เป็นผู้ที่ศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถก็ดี การแสดงเจตนานั้นท่านห้ามมิให้ยกขึ้นข้อต่อสู้คู้กรณีนั้น แต่ความข้อนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ หากปรากฏว่าผู้แทนโดยชอบธรรมได้รู้ด้วยแล้ว |
|
第131条 | |
意思表示の相手方が未成年者である場合、または裁判所の決定により禁治産の宣告を受けている場合は、この相手方に対して意思表示の効力を主張することは許されない。但し、相手方の法定代理人もまたその意思表示を知っていたことが判明した場合には、本条は、これを適用はしない。 |
ในการตีความการแสดงเจตนานั้น ท่านให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนตามตัวอักษร |
|
第132条 | |
意思表示の解釈に当たっては、文字上の表現や語句に捕われることなく、表意者の真意に着目しなければならない。 |
* * * |